ณ ตอนนี้ท่านทั้งหลายคงน่าจะเคยได้ยินหรือได้ทราบเกี่ยวกับเจ้า Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังมาในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่าน ซึ่งกำลังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกับแตกหน่อออกผลเป็นหลากหลายสกุลเงินไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Ethereum, XRP, Binance coin หรือที่กำลังดังเป็นพลุแตกที่ถูกปั่นโดยคนดังอย่าง Dogecoin เป็นต้น  เหรียญดิจิตอลเหล่านี้กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกๆ ท่าน โดยที่ท่านอาจคาดไม่ถึง ในวันนี้เราจึงขอพาทุกๆ ท่านมาทำความรู้จักกับเหรียญดิจิตอลเหล่านี้ กันครับ

ต้นกำเนิดของ Bitcoin มีที่มาอย่างไร?

ในช่วงปี ค.ศ 2007–2008 เกิดวิกฤติซับไพรม์หรือที่ไทยเรียกกันว่า “วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์” ซึ่งสาเหตุหลักเลยมาจากความซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในสหรัฐอเมริกา เป็นผลมาจากการที่ธนาคาร ปล่อยให้บุคคลทั่วไป กู้ยืมได้ง่าย โดยทางธนาคารนั้นได้สร้างข้อเสนอ และแรงจูงใจ อยากให้คนมากู้ โดยบอกว่าในอนาคต ราคาบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ จะมีแนวโน้มสูงขึ้น เมื่อราคาบ้านถูกลง แต่ดอกเบี้ยกลับแพงขึ้น ผู้คนเริ่มเบี้ยวไม่จ่ายหนี้เนื่องจากจ่ายกันไม่ไหว ผลที่ตามมาคือ ถูกธนาคารยึดทรัพย์สิน ผู้กู้ขาดทุน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ธนาคารและสถาบันการเงิน สูญเสียไปมากกว่า 4.3 แสนล้านดอลลาร์ จึงเป็นเหตุทำให้ผู้คนเริ่มไม่ไว้ใจและไม่เชื่อถือ ในธนาคาร จึงได้เกิดการคิดค้นคอนเซป Bitcoin ขึ้นมา

มูลค่าและหลักการของ Bitcoin เป็นอย่างไร?

เงิน Bitcoin สามารถแบ่งย่อยได้มากสุดถึง 6 หลัก คือ 0.000001 และเรียกหน่วยย่อยว่า Satochi ซึ่งกลไกราคาก็ขึ้นอยู่ที่จำนวนที่คนมีอยู่ ราคาที่คนนั้นจะปล่อย หรือจะขาย ซึ่งก็เป็นตามหลักของกลไลตลาดทั่วไป ซึ่ง Satochi ได้กำหนดให้ Bitcoin มีเพียงจำนวน 21 ล้าน Bitcoin เท่านั้น และปัจจุบันยังมีไม่ครบ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งในส่วนนี้แหละที่มีการค้นหากัน จึงเกิดการขุดเกิดขึ้น โดยในหลายๆ ธุรกิจออนไลน์เริ่มหันมาใช้สกุลเงิน Bitcoin เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเพราะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมให้ธนาคารและที่สำคัญยังปลอดภัยจากการถูกอายัดบัญชีอีกด้วย
เราจะเรียกเงินตรา Bitcoin สร้างขึ้นใหม่ว่า “ไมนิง” (mining, การทำเหมือง, การขุดทอง) เป็นกระบวนการยืนยัน ตรวจสอบและบันทึกการชำระเงิน โดยใช้หลักการว่า เมื่อมีการทำธุรกรรมการโอนเงินเกิดขึ้น ธุรกรรมดังกล่าวจะต้องได้รับการตรวจสอบและยืนยันโดยเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในเครือข่าย Peer-to-Peer คอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่นั้นจะได้รับค่าตอบแทนในการทำงานงานนั้นเป็นค่าเงินบิตคอยน์จำนวนเล็กน้อย ด้วยหลักการนี้ทำให้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่ไม่ขึ้นกับหน่วยงานรัฐบาลใดและมีค่าธรรมเนียมในการชำระเงินต่ำกว่าการชำระเงินผ่านระบบธนาคาร

ตัวอย่างเหรียญ Bitcoin ต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักในปัจจุบัน

Ethereum เป็นอีกเหรียญหนึ่งที่เทียบชั้นได้เกือบเท่า Bitcoin สร้างโดย นาย Vitalik Buterin และทีมงาน ETH นั้นถือเป็นโปรเจ็คบล็อกเชนที่มีระบบนิเวศที่แข็งแกร่งมากในตอนนี้ ข้อแตกต่างของ Ethereum กับ Bitcoin คือบล็อกเชนของ Ethereum นั้นจะถูกนักพัฒนาและบริษัทต่างๆ นำไปใช้มากกว่า

XRP มีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับสามในพื้นที่ของคริปโตถูกสร้างขึ้นในปี 2012 จุดประสงค์ของการสร้างก็คือเพื่อแก้ปัญหาในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศให้มีความรวดเร็วและง่ายดายที่สุด